การพิมพ์ออฟเซ็ตให้คุณภาพการพิมพ์สูงมาก โดยมีภาพที่คมชัดและการสร้างสีที่แม่นยำ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน
เนื่องจากความเร็วในการพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพและความคุ้มต้นทุน การพิมพ์ออฟเซ็ตจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานผลิตปริมาณมาก เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือ และกล่องบรรจุภัณฑ์
การพิมพ์แบบแกะสลักให้การพิมพ์คุณภาพสูง ภาพที่ชัดเจน และการสร้างสีที่แม่นยำ
เนื่องจากคุณสมบัติการพิมพ์แบบต่อเนื่อง การพิมพ์แบบแกะสลักจึงเหมาะสำหรับการผลิตขนาดใหญ่ และทำงานด้วยความเร็วสูง
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานพิมพ์ปริมาณมาก เนื่องจากต้นทุนการตั้งค่าครั้งแรกจะสูง แต่เมื่อเริ่มพิมพ์แล้ว จะมีประสิทธิภาพมาก
สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลายชนิด เช่น กระดาษ ฟิล์มพลาสติก และฟอยล์โลหะ
การพิมพ์ระบบเฟล็กโซกราฟฟิกใช้แผ่นพิมพ์ที่ยืดหยุ่นได้ (โดยทั่วไปทำจากยางหรือโพลีเอสเตอร์) ซึ่งสามารถปรับให้ใช้กับวัสดุต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น กระดาษ ฟิล์มพลาสติก ฟอยล์โลหะ เป็นต้น
การพิมพ์แบบเฟล็กโซกราฟฟิกสามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูง จึงเหมาะกับการผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร ฉลากขวดเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์สุขอนามัย
การพิมพ์แบบเฟล็กโซกราฟฟิกสามารถปรับใช้กับวัสดุหลายประเภท เช่น กระดาษ กระดาษแข็ง ฟิล์มพลาสติก ฟอยล์อลูมิเนียม ฯลฯ ตอบสนองความต้องการของวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกัน
การพิมพ์ถ่ายเทความร้อนช่วยให้พิมพ์งานได้ความละเอียดสูง จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำและความคมชัดสูง
เทคโนโลยีนี้สามารถใช้กับวัสดุหลายชนิด เช่น กระดาษ ฉลาก พลาสติก และโลหะ
เครื่องพิมพ์ถ่ายเทความร้อนใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับการพิมพ์จำนวนน้อยหรือแบบส่วนตัว
การพิมพ์สกรีนสามารถนำไปใช้กับพื้นผิวได้หลายชนิด เช่น กระดาษ พลาสติก โลหะ ไม้ สิ่งทอ แก้ว ฯลฯ ทำให้เหมาะกับการพิมพ์บนวัสดุหลายประเภท
กราฟิกที่พิมพ์จากการพิมพ์สกรีนโดยทั่วไปจะมีความทนทานต่อการสึกหรอและสภาพอากาศที่ดี จึงเหมาะสำหรับการพิมพ์ที่ยาวนาน
การพิมพ์สกรีนสำหรับงานพิมพ์จำนวนน้อยถือเป็นงานประหยัดต้นทุนและสามารถนำไปใช้กับสิ่งของต่างๆ ที่มีรูปร่างและขนาดต่างๆ ได้